วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

ศาลพันท้ายนรสิงห์


จังหวัดสมุทรสาคร เดิมเรียกกันว่า "ท่าจีน" หรือปัจจุบันรู้จักกันในนาม "มหาชัย" เป็นจังหวัดเล็กๆ ในเขตพื้นที่ตอนล่างของภาคกลาง บริเวณปากแม่น้ำท่าจีน อยู่ห่างจากทะเลอ่าวไทยเพียง ๒ กิโลเมตร เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยเฉพาะสัตว์ทะเล จึงมีการประกอบอาชีพด้านการประมงอย่างกว้างขวาง มีเรือประมงที่ทันสมัยนับพันลำและเป็นศูนย์กลางค้าส่งอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุด ใครที่ได้มาเยือนสมุทรสาครต้องไม่พลาดชิมอาหารทะเลสด อร่อย ในราคาย่อมเยา
ศาลพันท้ายนรสิงห์ พันท้ายนรสิงห์เป็นนายท้ายเรือในสมัยพระเจ้าเสือ หรือสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๘ วันหนึ่งพระเจ้าเสือได้เสด็จประพาสต้นด้วยเรือพระที่นั่งเอกชัย มาตามคลองโคกขาม โดยมีพันท้ายนรสิงห์ เป็นนายท้ายเรือ คลองนี้คดเคี้ยวและน้ำเชี่ยวมากไม่สามารถบังคับทิศทางเรือได้ ทำให้หัวเรือชนเข้ากับต้นไม้จนหัวเรือหัก พันท้ายนรสิงห์จึงขอให้พระเจ้าเสือประหารตนเสียตามกฏมณเฑียรบาล ศาลพันท้ายนรสิงห์ จึงเป็นอนุสาวรีย์แห่งความซื่อสัตย์ รักษากฎระเบียบ กฎมณเฑียรบาลยิ่งกว่าชีวิตตน

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ


จังหวัดสมุทรปราการ ตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศไทย ที่บริเวณปลายสุดของแม่น้ำเจ้าพระยา มีชื่ออื่นๆ ที่เรียกกันอีกคือ "เมืองพระปะแดง" และ "เมืองปากน้ำ" เมืองติดทะเลแห่งนี้มีมนต์เสน่ห์และมนต์ขลังที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่มาเยือนอยู่เสมอ และเป็นเมืองที่อาจจะกล่าวได้ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายและทรงคุณค่าในทางประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และธรรมชาติที่งดงามอยู่ในความทรงจำของนักท่องเที่ยวไม่รู้ลืม
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แผ่นดินทองประตูสู่เอเชียท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีพื้นที่ประมาณ 27,000 ไร่ ตั้งอยู่ที่ถนนบางนา - ตราด กิโลเมตรที่ 15 อยู่ห่างจากใจกลางกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร สารมารถรองรับผู้โดยสารได้ 45 ล้านคนต่อปี รองรับเที่ยวบินได้ 76 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และรองรับการขนถ่ายสินค้าได้ 3 ล้านตันต่อปี ประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ถือเป็นหน้าตา เป็นตาของประเทศในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม


กรุงเทพมหานคร มหานครแห่งความยิ่งใหญ่ มหานครแห่งความรัก ความหวัง และการสรรค์สร้าง มหานครที่มีร่องรอยของประวิติศาสตร์อันงดงาม เป็นดินแดนแห่งพุทธศาสนาที่เต็มเปี่ยมด้วยแรงศรัทธา เป็นที่ที่จะหาความสุขได้หลากหลายจากอาหารเลิศรส ที่พักทันสมัย แหล่งช็อปปิ้งที่ละลานตา และสถานบันเทิงที่พรั่งพร้อมความทันสมัยไม่น้อยหน้าที่ใดในโลก จึงไม่น่าแปลกใจ ที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกลงความเห็นว่า กรุงเทพมหานครคือสถานที่ที่น่าท่องเที่ยวที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว วัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง เช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา และมีพระราชประสงค์ให้วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต
ปัจจุบันในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาเยี่ยมชมความงดงามของงานสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมของช่างสิบหมู่แห่งกรุงรัตนโกสินทร์จำนวนมาก

อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน


สิงห์บุรี เมืองอู่ข้าวอู่น้ำและวิถีชีวิตของชุมชนชาวไทยที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน้อย พร้อมวัดวาอารามศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าสวยสะดุดตา งานหัตถศิลป์ ถิ่นหัตถกรรมฝีมือชั้นเยี่ยม อาหารอร่อยจากปลาช่อนลำแม่ลา รวมถึงคนเมืองสิงห์บุรีนี้ ล้วนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีแก่ผู้มาเยือน เมืองแห่งวีรชนคนกล้าผู้เสียสละเลือดเนื้อเพื่อปกป้องแผ่นดิน
อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน มีความสำคัญยิ่งทางประวัติศาสตร์ เป็นเครื่องเตือนใจให้อนุชนรุ่นหลังรู้จักความสามัคคีและความเสียสละเพื่อผืนแผ่นดิน ณ ที่แห่งนี้บันทึกเหตุการณ์ความกล้าหาญและเสียสละของวีรชนไทยที่ เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2308 ในครั้งนั้นชาวบ้านบางระจันได้รวมพลังกันต่อสู้กับกองทัพพม่าซึ่งมีจำนวนมากมายมหาศาล โดยพม่าต้องยกทัพเข้าตีหมู่บ้านนี้ถึง 8 ครั้ง ใช้เวลาถึง 8 เดือน พม่าถึงชนะได้

พระนครคีีรี


เพชรบุรี จังหวัดชายทะเลยอดนิยมใกล้กรุงเทพฯ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม แหล่งศึกษาดูงานระดับประเทศ สนามกอล์ฟที่ได้มาตรฐานระดับสากล ที่พักหลายระดับราคา
และเมื่อใครได้มาเที่ยวชมเมืองเพชร พลาดไม่ได้กับการเที่ยวชม "พระนครคีรี" ซึ่งเป็นพระราชวังที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นบนเขาสามยอด ชื่อเขาสมน หรือสมณ และในวันศุกร์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ รวม 10 วัน 10 คืน เพื่อเทิดพระเกียรติบูรพมหากษัตราธิราชไทย

วัดม่วง


จังหวัดอ่างทอง ขุมทรัพย์มีค่าแห่งที่ราบลุ่มภาคกลาง ทรงคุณค่าด้วยงานหัตถกรรมพื้นถิ่นไม่ว่าจะเป็นงานปั้นตุ๊กตาชาววัง การทำกลอง การทำอิฐดินเผา หรือการผลิตเครื่องจักสาน นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยวัดที่มีความสะอาดสวยงามและมีจุดเด่นที่น่าสนใจมากมายกว่า 200 วัด อันเป็นสถานที่ที่น่าศึกษาประวัติศาสตร์และเรื่องราวความเป็นมาในอดีตของชาติไทย
วัดม่วง ตั้งอยู่หมู่ที่ ๖ ตำบลหัวตะพาน อยู่ห่างจากอำเภอเมือง ประมาณ ๘ กิโลเมตร ไปตามเส้นทางสายอ่างทอง-วิเศษชัยชาญ (ทางหลวงหมายเลข ๓๑๙๕) ภายในวัดมีสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น พระอุโบสถ ล้อมรอบด้วยกลีบบัวสีชมพู ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก วิหารแก้ว ชั้นล่าง เป็นพิพิธภัณฑ์วัตถุมงคลและวัตถุโบราณ ชั้นบน ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เนื้อเงินแท้ องค์แรกองค์เดียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ ในวโรกาสที่ครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี

พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร


สุพรรณบุรี เมืองอู่ข้าวอู่น้ำของไทยเมืองอันเป็นต้นกำเนิดของวรรณคดีที่สำคัญของไทย คือขุนช้างขุนแผน เมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน เมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งประวัติศาสตร์ โบราณคดี วิถีชีวิตชุมชน วิถีชนเผ่า ธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ แต่ที่โดดเด่นและแตกต่างจากที่ใด
พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร (อุทยานมังกรสวรรค์) สร้างขึ้นจากความคิด นายบรรหาร ศิลปอาชา ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ของประเทศไทย โดยได้เริ่มออกแบบและจัดทำพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรขึ้น บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อนำเสนอเรื่องราวความเป็นมาของชาวจีนในประเทศไทย ตลอดจนประวัติศาสตร์และอารยธรรมจีน เพื่อเป็นอนุสรณ์การเจริญสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ครบ 20 ปีใน พ.ศ. 2539 ลำตัวมังกรภายนอกออกแบบอย่างถูกต้องตามลักษณะความเชื่อของคนจีนแต่โบราณ ภายใต้ตัวมังกรเป็นที่ตั้งของ "พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร" ซึ่งห้องจัดแสดงเรื่องราวด้วยเทคนิคนำเสนอทันสมัยจำนวน 20 ห้อง

รอยพระพุทธบาท


สระบุรี ประตูเชื่อมโยงภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเพียบพร้อมด้วยศักยภาพด้านการท่องเที่ยวมากมาย สัมผัสดินแดนแห่ง "คาวบอยเมืองไทย" วิถีชีวิตแบบคาวบอย อันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสระบุรี ที่ไม่อาจหาได้จากที่ไหนในเมืองไทย
รอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ประดิษฐาน ณ ไหล่เขาสุวรรณพรรพต หรือ เรียกว่า เขาสัจจพันธคีรี ค้นพบในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยนายพรานบุญ ซึ่งตรงกับสมัยของพระเจ้าทรงธรรม พระองค์ทรงสถาปนายกที่พระพุทธบาทขึ้นเป็น "พระมหาเจดีย์สถาน" โปรดให้สร้าง มณฑปยอดเดียว สวมครอบรอยพระพุทธบาท และ สร้างปูชนียวัตถุต่างๆ ในทุกๆ ปีจะมีงานเทศกาลนมัสการพระพุทธบาท โดยจัดปีละ 2 ครั้งคือ ตั้งแต่วันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 และตั้งแต่วันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 4 ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 4

พระปฐมเจดีย์


จังหวัดนครปฐม จังหวัดเล็กๆ ใกล้กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับประกอบอาชีพเกษตรกรรมจึงมีผลไม้ขึ้นชื่อมากมาย โดยเฉพาะส้มโอจนได้ชื่อว่า "เมืองส้มโอหวาน" และอาหารขึ้นชื่ออีกนานาชนิด
นครปฐมเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีการค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีจำนวนมากที่บ่งบอกว่าบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงในสมัยทวารวดี มีปูชนียสถานเก่าแก่ที่สำคัญคือ "พระปฐมเจดีย์" ซึ่งนับเป็นร่องรอยของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้ามาในประเทศไทยในยุคแรกๆ
พระปฐมเจดีย์ เป็นพระเจดีย์ใหญ่ รูประฆังคว่ำ ปากผาย โครงสร้างเป็นไม้ซุง รัดด้วยโซ่เส้นมหึมา ก่ออิฐ ถือปูน ประดับด้วยกระเบื้องปูทับ ประกอบด้วยวิหาร 4 ทิศกำแพงแก้ว 2 ชั้น เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า อันเป็นที่เคารพสักการบูชาของบรรดาพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ทางวัดกำหนดให้มีงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ในวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 ถึง วันแรม 5 ค่ำ เดือน 12 รวม 9 วัน 9 คืน เป็น ประจำทุกปี
(ภาพพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย, ส้มโอ, สวนสามพราน, โรสการ์เด้น, ตลาดน้ำวัดลำพญา, ดอนหวาย, กล้วยไม้,ตลาดบาง

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตลอด 417 ปีแห่งการเป็นราชธานีของไทย อยุธยา ได้สั่งสมความเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมของชนชาติไทยไว้มากมาย จนองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก อยุธยาเป็นเมืองอู่ข้าว อู่น้ำ มีแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นสายเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตและก่อเกิดเป็นสายน้ำแห่งอารยธรรมที่ไหลผ่านอดีตกาลนำความภาคภูมิใจสู่ลูกหลานไทยในปัจจุบัน
อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา บนเนื้อที่กว่า 3,000 ไร่ของเกาะเมืองอยุธยานั้น ซุกซ่อนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าอัศจรรย์ใจไว้มากมาย ประกอบด้วยโบราณสถานสำคัญหลายแห่ง นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเที่ยวได้หลายวิธีทั้งการนั่งรถราง, นั่งช้าง หรือจะเลือกชมยามค่ำคืนที่มีการจัด Mini Light @ Sound ก็ได้

อำเภอสวนผึ่ง


จังหวัดราชบุรี ดินแดนแห่งวัฒนธรรมลุ่มน้ำแม่กลองและสายหมอกแห่งขุนเขาตะนาวศรี เมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีที่หลากหลาย ผสมผสานความงดงามและอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนและลงตัว วันนี้ราชบุรี เมืองเล็กๆใกล้กรุงเทพฯ มิใช่มีเพียงแต่ตลาดน้ำและโอ่งเท่านั้น แต่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ และบูติกรีสอร์ทในฝันของใครหลายๆคน
อำเภอสวนผึ้ง แหล่งพักผ่อนในวันสบายๆ เติมความสุขให้วันหยุดอย่างคุ้มค่ากับกิจกรรมท่องเที่ยวมากมายหลากหลาย สัมผัสธรรมชาติที่บริสุทธิ์ อากาศมันหนาวเป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่เกิดขึ้นในภาคกลางของประเทศไทย นั่นเพราะสวนผึ้งอยู่ในอ้อมล้อมของขุนเขา ตะนาวศรี ระดับความสูงของขุนเขาบางแห่ง อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร

เกาะเกร็ด


นนทบุรี เมืองแห่งทุเรียนก้านยาวที่ขึ้นชื่อว่า หอม อร่อย และมีราคาแพงที่สุดของประเทศ แม้ทุกวันนี้วิถีชีวิตของผู้คนจังหวัดนนทบุรีได้เริ่มเปลี่ยนแปลงไป แต่นนทบุรียังเต็มเปี่ยมไปด้วยมนเสน่ห์ และมนต์ขลัง ซึ่งถ้าใครได้มาเที่ยวชมรับรองว่าจะหลงรักเมืองนนท์ เมืองแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างแน่นอน
เกาะเกร็ด เกิดขึ้นจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยา สืบต่อความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และมีชาวมอญมาตั้งถิ่นฐานในสมัยกรุงธนบุรี ซึ่งยังปรากฏหลักฐานตามวัดวาอารามต่างๆ จนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะเจดีย์ทรงรามัญที่จำลองแบบมาจากพระธาตุเจดีย์มุเตา เมืองหงสาวดีที่ตั้งเอียงอยู่ริมแม่น้ำ เนื่องจากกระแสน้ำได้กัดเซาะตามวันเวลา
ทุกวันนี้ในช่วงวันหยุด นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเที่ยวชมเกาะเกร็ดเป็นจำนวนมากและถือเป็นบทเริ่มต้นของการท่องเที่ยวชุมชนของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ทีเดียว

สะพานข้ามแม่น้ำแคว


กาญจนบุรี ดินแดนที่มีหน้าบันทึกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาตลอดทุกยุคสมัย และนักท่องเที่ยวน้อยคนนัก ที่จะไม่เคยเดินทางมาสัมผัสกับดินแดนแห่งนี้ ปัจจุบันกาญจนบุรีก็ยังคงมีมนต์เสน่ห์อยู่ไม่เสื่อมคลาย ด้วยความสมบูรณ์ของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ประเพณี และวิถีชีวิตชุมชนที่หลากหลาย รวมถึงร่องรอยประวัติศาสตร์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บทเรียนราคาแพงจากความโหดร้ายของสงคราม อันเป็นที่มาของสะพานข้ามแม่น้ำแคว และทางรถไฟสายมรณะที่โด่งดังไปทั่วโลก
สะพานข้ามแม่น้ำแคว อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของโลก เป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟสายมรณะที่สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์ทั้งเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร และกรรมกรเรือนหมื่น เพื่อก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ไปสู่ประเทศพม่า ด้วยระยะทางยาว กว่า 415 กิโลเมตร ฝ่าป่าดงดิบที่รกชัฏ ทะลุผ่านภูเขาหิน เลียบเลาะริมหน้าผาสูงชัน ด้วยความยากลำบาก ซึ่งเส้นทางช่วงหนึ่งต้องสร้างข้ามแม่น้ำแควใหญ่ที่ ตำบลท่ามะขาม จึงเรียกว่า "สะพานข้ามแม่น้ำแคว" ปัจจุบันเส้นทางรถไฟสายนี้ไปสิ้นสุดที่สถานีน้ำตก อำเภอไทรโยค ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เปิดบริการเดินรถไฟบนเส้นทางสายนี้เป็นประจำทุกวัน (น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น, น้ำตกแควใหญ่, กิจกรรมขี่ช้างล่องแพไม่ไผ่)

ท่องสวนป่าทองผาภูมิ

อีกบรรยากาศยามเย็น ของผืน (สวน) ป่า.

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อ “ห้วยเขย่ง” มาบ้าง  จากโฆษณาสร้างภาพลักษณ์ของ ปตท.ที่ไปฟื้นฟูธรรมชาติ แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า “ห้วยเขย่ง” ที่เห็นในหนังโฆษณานั้น เป็นตำบลหนึ่งในอำเภอทองผาภูมิ  จ.กาญจนบุรี อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
ความเป็นมาของชุมชนห้วยเขย่ง จากชาวบ้านที่เคยอยู่ในพื้นที่ลุ่ม  ปัจจุบันกลับกลายมาเป็นคนพื้นที่สูง  เพราะบริเวณที่เคยอยู่กลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมจากการก่อสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ (เขื่อนเขาแหลม) ชีวิตชาวบ้านห้วยเขย่งจากที่เคยทำนาหาปลา ก็ต้องย้าย ถิ่นฐานมาอยู่บริเวณเชิงเขาหินปูน  ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าเสื่อม โทรมและแห้งแล้ง ซึ่งเมื่อชาวบ้านห้วยเขย่งใช้เงินที่ได้รับชดเชยค่าที่ดินไปจนหมด ความยากจนก็กลับมาเยือน  หลายครอบครัวต้องขายที่ดินที่ได้รับมาใหม่ แล้วหันมามีอาชีพรับจ้างทำไร่และหาของป่าขายเป็นรายได้ยังชีพ
กระทั่ง พ.ศ. 2541 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติไทย-สหภาพ พม่า ผ่านพื้นที่ป่าและชุมชนห้วยเขย่ง จึงมีโครงการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมให้แก่ ชุมชนและฟื้นฟูดูแลอนุรักษ์พื้นที่ป่าทองผาภูมิ
แป๊บเดียว 10 ปีผ่านไป วันนี้ที่ชาวห้วยเขย่งได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิโครงการหลวง  ผ่านสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) เข้ามาดำเนินการตั้งเป็นโครงการขยายผลโครงการหลวงห้วยเขย่ง ด้วยเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือให้คนในชุมชนมีรายได้เพียงพอ ชุมชนเข้มแข็งมีสิ่งแวดล้อมที่ดีและยั่งยืน ตามกรอบทำงานที่ดึงพลัง 3 ด้านของการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน คือการสร้างรายได้ การสร้างสิ่งแวดล้อมและการสร้างความมั่นคงทางสังคม  กระทั่งมาถึงวันที่มีความพร้อมก้าวย่างไปได้ ด้วยตัวเอง

น้ำตกห้วยขมิ้น


          น้ำตกห้วยขมิ้น ตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ ริมทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์ ห่างจากกาญจนบุรีประมาณ 108 กิโลเมตร น้ำตกห้วยขมิ้นมีสภาพสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ทั่วบริเวณร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้ป่านานาชนิด น้ำตกแบ่งออกเป็นหลายชั้น แต่ละชั้นมีความสูงและความงดงามต่างกันไป อุทยานฯ ได้ทำทางเดินเท้าสำหรับขึ้นไปชมน้ำตกแต่ละชั้น ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ การเดินทางไปน้ำตกห้วยขมิ้นโดยทางรถยนต์ จะใช้เส้นทางสายกาญจนบุรี-เอราวัณ ผ่านถ้ำพระธาตุห้วยพุมุด (วัดพุมุด) เข้าถึงบริเวณน้ำตกรวมระยะทางประมาณ 104 กิโลเมตร ควรใช้รถสภาพดีมีกำลังขับเคลื่อนสูง หรือจะเช่ารถสองแถวจากตัวเมืองหรือที่ตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ หรือเดินทางทางเรือโดยลงเรือที่ท่าหม่องกระแทะหรือท่าเรือท่ากระดาน ซึ่งอยู่ห่างจากทางแยกเข้าเขื่อนศรีนครินทร์ประมาณ 12 กิโลเมตร ในบริเวณอุทยานฯ มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยว รายละเอียดติดต่อกองอุทยานแห่งชาติ โทร. 02-579-0529, 02-579-4842
น้ำตกห้วยขมิ้น กาญจนบุรี

ที่มา http://www.nookjung.com/travel/199

น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี

น้ำตกเอราวัณ กาญจนบุรี




น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี
น้ำตกเอราวัณ
          เป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยงาม บนฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ น้ำตกเอราวัณมีความยาว 2,000 เมตร ทั้งหมด 7 ชั้น อยู่ห่างจากตัวเมือง 65 กิโลเมตร ขึ้นไปบนเส้นทางสายกาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ (ทางหลวงหมายเลข 3199) เมื่อถึงกิโลเมตรที่ 56 แยกซ้ายข้ามสะพานเข้าตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ตรงไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงลานจอดรถแล้วเดินต่อไปอีก 500 เมตร จะถึงน้ำตก สำหรับการเดินทางโดยรถประจำทาง มีรถออกจากสถานีขนส่งใกล้ที่ทำการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มายังตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ทุกวัน ที่บริเวณน้ำตกเอราวัณมีบ้านพักของกองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 579-0529, 579-4842

วนอุทยานเขานางพันธุรัต


วนอุทยานเขานางพันธุรัต
        โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเพื่ออนุรักษ์สถานที่อันเกี่ยวข้องกับตำนานเรื่อง “สังข์ทอง”
เขานางพันธุรัตมีลักษณะคล้ายผู้หญิงนอน ซึ่งตามตำนานนั้นกล่าวว่าเป็นร่างของนางพันธุรัต ที่กลายเป็นภูเขา
ภายในวนอุทยานประกอบด้วย บ่อชุบตัวพระสังข์ หุบวังเรือ ถ้ำมะยม ถ้ำแจง เมรุนางพันธุรัต กระจกนางพันธุรัต
คอกช้าง เป็นต้น ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ และ ความท้าทายด้วยการปีนเขา และสามารถเห็นภาพมุมสูง
ของชะอำและบริเวณใกล้เคียงเป็นของคนไทยทุกคน โปรดช่วยกันรักษาไว้ให้ลูกหลานของเรา
วนอุทยานเขานางพันธุรัต
ข้อมูลทั่วไป 
      วนอุทยานเขานางพันธุรัต อยู่ในท้องที่ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 1,562 ไร่ โดยกรมป่าไม้ได้ประกาศจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 25กุมภาพันธ์ 2542
ลักษณะภูมิประเทศ 
      พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาหินปูนมีลักษณะทางภูมิทัศน์เป็นปฏิมากรรมทางธรรมชาติ มีลักษณะสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ทอดยาวตามแนวเหนือ-ใต้ มองดูคล้ายนางยักษ์ (นางพันธุรัต) นอนอยู่ มีโกศอยู่ทางทิศใต้ เทือกเขาที่สำคัญประกอบด้วยเขาเจ้าลายใหญ่และเขาจอมประสาท พื้นที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 60-372 เมตร
ลักษณะภูมิอากาศ 
      สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปมี 3 ฤดู คือ ฤดูฝน จะมีฝนตกเป็นระยะสั้นๆ ฤดูหนาวจะมีอากาศเย็นและฤดูร้อนอากาศค่อนข้างร้อน
พืชพรรณและสัตว์ป่า 
     ป่าเบญจพรรณ ซึ่งเป็นป่าโปร่ง ดินมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างต่ำมีหินปูนโผล่ทั่วไป ต้นไม้แคระแกร็นและมีขนาดโตไม่มากนัก พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ไผ่รวก ประดู่ อ้อยช้าง ยมหิน มะเกลือ ผักหวาน กระบองเพชร เป็นต้น
     ป่าดิบแล้ง พบบริเวณหุบเขาและลำห้วย ดินมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ข่อยหนาม ไทร ดำดง ไผ่ป่า ขันทองพยาบาท สะเดา ซิก ดีหมี เป็นต้น
     สัตว์ป่าที่พบ ได้แก่ เลียงผา อีเห็น กระต่ายป่า ค้างคาว สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ

พระราชวังพระนครคีรี


พระราชวังพระนครคีรี หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่า เขาวัง จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามน่าชมทั้งด้านธรรมชาติ และศิลปกรรม ที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน และที่น่าสนใจเป็นพิเศษ คือ ลักษณะสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันตก แบบนีโอคลาสสิก สถาปัตยกรรมไทย และ จีน จนมีเอกลักษณ์เฉพาะ ในช่วงรัชกาลที่ 4 เป็นเวลาที่เมืองไทยเริ่มปรับตัวให้ทันสมัย อย่างประเทศตะวันตก ขณะที่ความนิยมในสถาปัตยกรรมแบบจีน ที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ก็ยังคงมีอยู่ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องดัดแปลงรูปแบบของสถาปัตยกรรมให้เข้ากันได้กับการก่อสร้างแบบไทยๆ ในยุคนั้น
พระราชวังพระนครคีรี (เขาวัง)
พระราชวังพระนครคีรี (เขาวัง)
พระราชวังพระนครคีรี ประกอบด้วยกลุ่มอาคารจำนวนมาก แต่สถานที่สำคัญสามารถเข้าชมได้ มีดังนี้
- พระที่นั่งสันถาคารสถาน เป็นหมู่พระที่นั่งขนาดใหญ่ สำหรับต้อนรับแขกเมืองที่มาพักบนพระนครคีรี มีห้องรับแขกอยู่ตรงกลาง สองข้างเป็นห้องนอน มีมุขหน้ายื่น
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี ปัจจุบันเป็นพระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์ และพระที่นั่งปราโมทย์มไหสวรรย์
พระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์ เป็นพระที่นั่งองค์ใหญ่ที่สุด ภายในจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเครื่องราชูปโภค เช่น พระแท่นบรรทม พระฉาย (กระจกเงา) บานใหญ่ เครื่องมุก เครื่องถ้วยชาม ตุ๊กตาโลหะ ฝีมือช่างยุโรป เป็นต้น
พระที่นั่งปราโมทย์มไหสวรรย์ เป็นที่ประดิษฐานพระแท่นบรรทมในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
- พระที่นั่งเวชยันต์วิเชียรปราสาท เป็นปราสาทยอดปรางค์ขนาดย่อม สร้างตามคติที่ว่า การสร้างพระราชวังใหญ่ จะต้องมีปราสาท ภายในประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฉลองพระองค์แบบที่เคยทรง ในการเสด็จออกรับทูตานุฑูต
- พระที่นั่งราชธรรมสภา สร้างด้วยศิลปะแบบผสมระหว่างไทย จีน และตะวันตก กล่าวคือ มีรูปทรงอาคารคล้ายเก๋งจีน แต่ตกแต่งตามแบบไทยและตะวันตก
- หอชัชวาลเวียงชัย เป็นหอทรงกลมสูงสองชั้น หลังคาโค้งกรุกระจก สร้างขึ้นเป็นที่ศึกษาและสังเกตการณ์ ทางดาราศาสตร์ สามารถชมทิวทัศน์ของเมืองเพชรบุรีได้โดยรอบ ในอดีต เวลากลางคืน จะจุดโคมไฟแขวนไว้ภายในโดมกระจก เมื่อมองจากทะเลสามารถเห็นได้แต่ไกล จึงเป็นที่หมายของชาวเรือในการเดินเรือเข้าอ่าวบ้านแหลมได้อย่างดี

สุดยอดชาวเผ่าอีสาน สีสันของผู้คนและวัฒนธรรมประเพณี



สุดยอดชาวเผ่าอีสาน สีสันของผู้คนและวัฒนธรรมประเพณี

          คนอีสานนอกจากจะมีชาวอีสานลาว ซึ่งเป็นกลุ่มชนกลุ่มใหญ่ที่สุด เป็นเจ้าของวัฒนธรรมประเพณีซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของภูมิภาคแล้ว อีสานก็ยังมีกลุ่มชนต่างๆ อีกหลากหลายกลุ่มด้วยกัน เช่น กลุ่มชาวผู้ไทยหรือไทยดำ กลุ่มชาวอีสานเขมร กลุ่มชาวส่วย กลุ่มชาวมอญเขมรโบราณ เช่น ชาวบนหรือญักุร ชาวข่าหรือขมุ กลุ่มชาวไทยย้อ กลุ่มชาวไทยกระโส้ ตลอดจนกลุ่มชาวไทยโคราช เป็นต้น

          กลุ่มชาวไทยต่างๆ เหล่านี้แหละ ที่เป็นสีสันและเป็นเจ้าของกิจกรรมทางวัฒนธรรมประเพณีในแง่มุมต่าง ๆ  ทั้งงานศิลปหัตถกรรม อาหาร ภาษา บทเพลง บทกวีต่างๆ อีกมากมายหลากหลาย ในแต่ละชาวเผ่าต่างก็มีรูปแบบที่เป็นตัวของตัวเองโดยเฉพาะ และใช้รูปแบบกลางๆ ที่เป็นของภูมิภาคอีสานร่วมกัน ตัวอย่างเช่น ในแทบทุกชนเผ่าในภาคอีสานต่างก็มีประเพณีบายศรีสู่ขวัญเป็นประเพณีร่วมกัน แต่รายละเอียดในพิธีกรรมจะแตกต่างกันไปในแต่ละชนเผ่า ตัวอย่างเช่น การต้อนรับแขกเหรื่อด้วยการดวลเหล้าจากไห ชาวลาวทั่วไปจะใช้คำเรียกว่าดูดอุ แต่ชาวผู้ไทยจะเรียกว่าชนช้าง เป็นต้น และอีกตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ บทเพลงหรือบทกวีของชาวผู้ไทยที่มีแนวทางฉันทลักษณ์และทำนองเป็นของตนเอง แต่ภาษาที่ใช้ในเพลงก็อาจจะใช้ภาษาที่ไม่เฉพาะเจาะจง อาจจะเป็นภาษาผู้ไทยหรือไทยอีสานรวมๆ กันไปก็ได้

          และชาวเผ่าที่เรา อ.ส.ท. ขอยกย่องให้เป็นสุดยอดของอีสาน นอกจากชาวไทยลาวที่มีจำนวนมากที่สุด มีทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นพื้นฐานสำคัญของวัฒนธรรมประเพณีอีสานแล้ว ชาวผู้ไทยและชาวไทยเขมรต่างก็มีบทบาทและมีวัฒนธรรมประเพณีวิถีชีวิตที่เป็นตัวของตัวเอง เป็นสีสันที่ช่วยกันทำให้อีสานเป็นแผ่นดินแห่งความเจิดจ้าและร่ำรวยด้วยทรัพยากรแห่งศิลปวัฒนธรรมโดดเด่นมานับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

สุดยอดพระบรมธาตุงวดงามดังนิรมิต


 สุดยอดพระบรมธาตุงวดงามดังนิรมิต

          ไม่ว่าขอมจะเป็นเขมรหรือไม่ แต่ศาสนสถานของขอมก็สร้างขึ้นด้วยหิน ส่วนไทยและลาวเราสร้างวัดและเจดีย์ด้วยอิฐและปูน ดังนั้น ในอีสานนอกจากจะมีโบราณสถานกลุ่มปราสาทหิน อันแสดงให้เห็นถึงอารยธรรมขอมที่แผ่กว้างไปทั่วแล้ว อีสานก็ยังมีอารยธรรมไทยลาวที่แผ่ขยายออกไปจนเต็มที่เช่นเดียวกัน วัดและส่วนประกอบสำคัญของวัด คือเจดีย์ ที่ถูกเรียกเป็นภาษาอีสานว่าธาตุ มีมากมายหลายแห่งในอีสานโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองเก่าแก่มาแต่โบราณกาล

          พระธาตุสำคัญของอีสานอันเป็นที่รู้จัก ได้แก่ พระธาตุเชิงชุม จังหวัดสกลนคร พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม พระธาตุก่องข้าวน้อย จังหวัดยโสธร พระธาตุบังพวน จังหวัดหนองคาย พระธาตุศรีสองรัก จังหวัดเลย และพระธาตุยาคู จังหวัดมหาสารคาม เป็นต้น

          
ในจำนวนพระธาตุทั้งหลายแห่งนี้ ที่ถึงพร้อมด้วยความสวยงามของศิลปะอีสาน มีความใหญ่โตมโหฬารทรงคุณค่า อีกทั้งมีความสำคัยยิ่งทางจิตวิญญาณแล้ว ก็คงไม่มีธาตุแห่งไหนเกินองค์พระธาตุพนม ซึ่งไม่เพียงแต่พระธาตุพนมจะได้รับการเคารพนบนอบโดยคนไทยอีสานเราฝั่งนี้เท่านั้น แม้ในคราวงานนมัสการพระธาตุในทุกวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ชาวลาวจากอีกฟากฝั่งโขงก็ยังต่างพากันข้ามประเทศมาร่วมงานนมัสการองค์พระธาตุพนมนี้กันอย่างครึกครื้น

อลังการแห่งปราสาทหินสุดยอด



 อลังการแห่งปราสาทหินสุดยอ

          เขมรกับไทยมีความสัมพันธ์กันมาช้านาน มีเรื่องเล่าว่า ถ้าไม่มีเขมร คนไทยก็จะหายใจไม่ได้และเดินไปไหนไม่ถูก เพราะคำว่าจมูกและคำว่าเดินมาจากภาษาเขมร ดังนั้น การมีปราสาทหินอารยธรรมขอมมากมายในดินแดนไทยจึงนับเป็นเรื่องปรกติ ไม่มีอะไรแปลกประหลาด

          ปราสาทหินนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในอีสาน และมีจำนวนมากมาย ตั้งแต่ใต้สุดของจังหวัดอุบลราชธานี ไปจนถึงเหนือสุดที่พระธาตุนารายณ์เจงเวง จังหวัดสกลนคร ในบรรดาปราสาทหินอารยธรรมขอมจำนวนมากมายเหล่านี้ อาจจำแนกออกได้เป็นสิ่งก่อสร้าง 1 ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ ศาสนสถาน ธรรมศาลาหรือบ้านมีไฟที่สร้างไว้เพื่อเป็นที่พำนักของคนเดินทาง และอโรคยศาลาหรือโรงพยาบาล ที่มีแพทย์คือ พราหมณ์ผู้ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ เป็นหมอ

          ปราสาทหินอันเป็นที่รู้จักในภาคอีสานและเป็นสุดยอดในด้านต่างๆ ตัวอย่างเช่น ปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทหินทรายสีชมพูบนปากปล่องภูเขาไฟแห่งเมืองบุรีรัมย์ ปราสาทหินพิมาย ปราสาทที่เป็นดังตันแบบแห่งปราสาทหลายแห่งในเมืองเสียมเรียบ ปราสาทตาเมือน ที่มีทั้งอโรคยศาลาและธรรมศาลาครบครัน อยู่ใกล้ๆ ปราสาทหินพนมวัน ปราสาทสระกำแพงใหญ่ ปราสาทสระกำแพงน้อย และปราสาทศรีขรภูมิ เป็นต้น

สุดยอดอีสานก่อนประวัติศาสตร์


สุดยอดอีสานก่อนประวัติศาสตร์

          เหตุการณ์สนุกๆ อย่างเช่น การต่อสู้กันของไดโนเสาร์ที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งแบ่งออกเป็นยุคต่างๆ มีชื่อภาษาอังกฤษเรียกยากๆ นั้น เป็นเหตุการณ์ที่นำมาจำลองและจัดแสดงสาธิต เป็นการให้ความรู้ความบันเทิง และได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากมายจนกลายเป็นจุดเด่นหนึ่งของการท่องเที่ยวอีสานไปแล้ว

          ประวัติศาสตร์ของอีสานเริ่มขึ้นตั้งแต่ยุกก่อนประวัติศาสตร์ มีการค้นพบซากกระดูกของไดโนเสาร์หลากพันธุ์หลายตระกูล ทั้งชนิดเนื้อและกินพืช โดยเฉพาะในเขตภาคอีสานตอนกลาง อันเป็นพื้นที่แถบเทืองเขาภูพาน จังหวัดกาฬสินธุ์ สกลนคร ขอนแก่น นอกจากซากไดโนเสาร์ ยังมีการค้นพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณที่บ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี ภาพเขียนสีที่ผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี เป็นต้น


          จากยุคก่อนประวัติศาสตร์ก็คลี่คลายมาสู่ยุคแห่งตำนาน เรื่องราวของเมืองโบราณต่างๆ ที่ถูกทับซ้อนอยู่ด้วยเมืองสมัยใหม่ นิทานในประวัติศาสตร์อย่างอุสา-บารสท้าวปาจิตต์กับนางอรพิมพ์ และสังข์ศิลป์ไชย ล้วนแสดงให้เห็นถึงความเป็นบ้านเป็นเมืองในยุคก่อนของอีสาน ก่อนจะถึงช่วงแห่งการเผยแพร่เข้ามาของอารยธรรมขอม และมาสุดปลายทางที่การทิ้งร้างบ้านเมืองต่างๆ ออกไปด้วยเหตุผลที่ยังคงลี้ลับ ก่อนที่กลุ่มชนไทยลาวจะอพยพโยกย้ายกันข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาอยู่อาศัยในแผ่นดินที่เคยเจริญรุ่งเรืองอยู่ก่อนหน้าแล้ว และพลิกฟื้นผืนแผ่นดินอีสานให้กลับเจริญรุ่งเรืองขึ้นอีกครั้ง


          ความเป็นดินแดนแห่งไดโนเสาร์นับว่าเป็นจุดเด่นที่สำคัญของการท่องเที่ยวอีสานทำให้เกิดพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ขึ้นมากมายหลายแห่ง แต่ละแห่งมีการจัดแสดงที่ทันสมัยสวยงาม ถ้าจะเทียบกับการค้นพบภาพวาดที่ผาแต้ม หรือลวดลายหม้อไหบ้านเชียงนับว่ามีจุดเด่นกันคนละด้าน แต่กับนักท่องเที่ยวชาวไทย ยังนับว่าไดโนเสาร์ได้เปรียบกว่า เพราะฉะนั้น ไดโนเสาร์จึงเป็นสุดยอดที่เหนือกว่าเรื่องราวก่อนประวัติศาสตร์ใดๆ ของอีสานครับ

สุดยอดความงามทุ่งดอกไม้ป่า


 สุดยอดความงามทุ่งดอกไม้ป่า

          ในบรรพาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลากหลายประเภทในประเทศไทยนั้น ทุ่งดอกไม้ป่านับเป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภทที่เที่ยวได้เที่ยวดี ใครๆ ก็ไปเที่ยวได้ ใครๆ ก็ชอบ แทบไม่มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นอายุ เพศ วัย ความเก่งกล้าสามารถ หรือแม้กระทั่งความรอบรู้ของนักท่องเที่ยว

          ภาคอีสานมีทุ่งดอกไม้ป่าอันงดงามอยู่จำนวนไม่น้อย โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติต่างๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ ทุ่งกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ ทุ่งดอกไม้ดินที่ป่าสมอปูน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา-ปราจีนบุรี ทุ่งดอกไม้ดินที่ภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร กลุ่มดอกไม้ป่าบนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จังหวัดเลย กลุ่มดอกไม้ป่าบนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จังหวัดหนองคาย และทุ่งดอกไม้ดินที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบนราชธานี เป็นต้น 

          นอกจากทุ่งดอกไม้ที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีนี้แล้ว ยังมีทุ่งดอกไม้ประเภทขึ้นเองตามหัวไร่ปลายนา และทุ่งดอกไม้ปลูกเพื่อเอาน้ำมันอีกบางชนิด ที่ในฤดูกาลก็สวยงามบานสะพรั่งน่าไปเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่งอีกหลายประเภท เช่น ทุ่งดอกหญาบัว ดอกปอเทือง และทุ่งดอกทานตะวัน แถบรอยต่อจังหวัดเพชรบูรณ์และลพบุรี เป็นต้น


          และจากทั้งหมดนี้ อ.ส.ท. ขอฟันธงว่า ทุ่งกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ และ ทุ่งดอกไม้ดินบนลานหิน อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบนราชธานี มีความเป็นสุดยอดที่พอๆ กัน เนื่องเพราะบนลานดอกไม้ทั้งสองแห่งนั้น ล้วนมีการจัดการเพื่อการท่องเที่ยวเป็นอย่างดี การเข้าชมเป็นเระเบียบเรียบร้อย ขนาดของทุ่งดอกไม้เป็นพื้นที่กว้างใหญ่ เมื่อถึงฤดูกาลมีดอกไม้จำนวนมากผลิบานแน่นขนัด เที่ยวได้ไม่เบื่อ อยู่ในพื้นที่ที่มีความสะดวกในการเข้าถึงได้เป็นอย่างดี มีที่พักทั้งของภาครัฐและเอกชนบริการพร้อมพรั่ง อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ รอรองรับนักท่องเที่ยวให้สามารถไปต่อยอดในที่อื่นๆ ได้อีก


สุดยอดภูผาและผืนป่าอนุรักษ์


สุดยอดภูผาและผืนป่าอนุรักษ์

          นอกจากภูเขาจะเป็นแหล่งรวมความงดงามน่าท่องเที่ยวแล้ว ยังมีความสำคัญในฐานะเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารอีกด้วย กระบวนการจะเริ่มตั้งแต่น้ำฝนที่ประพรมผืนป่าบนภูเขา ต้นไม้มีหน้าที่เก็บกักน้ำนั้นไว้ แล้วค่อยปล่อยลงสู่ลำน้ำเล็กๆ  ที่ไหลลงมาตามความลาดชันของภูเขา รวมกันเป็นลำน้ำสายใหญ่ ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ กระทั้งไหลลงสู่ที่ราบสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ผู้คนเบื้องล่าง นอกจากบทบาทนี้แล้ว ป่าบนภูเขายังเป็นแหล่งรวมของนานาสรรพชีวิตหลากหลาย ทั้งพืชและสัตว์ รวมถึงนกหายากอีกหลากหลายประเภท ภูเขาจึงเป็นแหล่งที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้เพื่อให้ต้นน้ำลำธานคงความอุดมสมบูรณ์ชุ่มชื้น สัตว์ป่า นก และพืชหายากนานาพรรณมีโอกาสดำรงพันธุ์ของตนสืบไป

          ในอีสานมีผืนป่าอนุรักษ์ด้วยกันมากมายหลายแห่ง อย่างอุทยานแห่งชาติที่เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งใหม่ล่าสุดของเมืองไทย คืออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่กินพื้นที่ไม่เฉพาะเพียงภาคอีสาน แต่ยังแผ่ขยายพื้นที่กว้างขวางมาถึงภาคกลางด้านตะวันออกเขาใหญ่ในด้านหนึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำบางปะกงในภาคกลาง และอีกด้านหนึ่งก็เทน้ำไหลลงสู่ลำห้วยต่างๆ ของน้ำมูน น้ำชี นอกจากนั้น อีสานยังมีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ซึ่งงดงามด้วยพรรณไม้หายากนานาพรรณ ควรค่าแก่การศึกษา รวมทั้งเขตอุทยานแห่งชาติริงโขงที่น่าสนใจอย่างอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ภูวัว แก่งตะนะ และที่อื่นๆ อีกมากมาย

          ในบรรดาภูผาและผืนป่าอนุรักษ์ทั้งหลายของอีสานนั้น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง คือสุดยอดของภูผาและผืนป่าอนุรักษ์ที่เรา อ.ส.ท. อยากจะยกย่องให้เป็นสุดยอดของอีสานในด้านภูเขาและผืนป่าแห่งการอนุรักษ์

สุดยอดสายน้ำฉ่ำเย็น แม่น้ำโขง ชี มูน


สุดยอดสายน้ำฉ่ำเย็น แม่น้ำโขง ชี มูน

          แม่น้ำโขง  คือสุดยอดแม่น้ำของอีสาน ข้อนี้คงไม่มีใครจะปฏิเสธได้ แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำนานาชาติที่ไหลเข้าสู่ประเทศไทยครั้งแรกในภาคเหนือที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เป็นระยะทางสั้นๆ ก่อนจะออกจากประเทสไทยที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเดียวกัน จากนั้นแม่น้ำโขงจึงไหลกลับเข้าสู่ประเทศไทยอีกครั้งในแผ่นดินอีสาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย จากเชียงคาน แม่น้ำโขงก่อให้เกิดหาดทราบ โขดหิน และเกาะแก่งที่สวยงามมากมายหลากหลาย โดยเฉพาะที่อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย มีที่พักและรีสอร์ตมากหลายได้รับการจัดสร้างขึ้นไว้รองรับนักท่องเที่ยวผู้มาชมความสวยงามของแม่น้ำโขงที่นี่

          สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 เป็นสะพานนานาชาติแห่งแรกที่พาดข้ามไปบนแม่น้ำสายนี้ เชื่อมมิตรภาพสองฝั่งโขง ร้อยใจลาว-ไทยน้องพี่เข้าด้วยกัน จากสะพานมิตรภาพๆ แม่น้ำโขงก็ขยายตัวกว้างใหญ่ ทอดผ่านเมืองสองฟากฝั่งที่ล้วนเป็นเมืองสำคัญของสองประเทส เช่น เมืองบึงกาฬ เมืองบอลิคัน เมืองนครพนม และเมืองท่าแขก จนมาพบกับสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 จังหวัดมุกดาหาร จากนั้นแม่น้ำโขงก็ไหลต่อลงไปผ่านเมืองเขมราฐ ก่อให้เกิดแก่งหินที่สวยงามขึ้นอีกหลายชุดก่อนจะไปสุดท้ายออกจากประเทสไทยที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี

          ระหว่างทางเดินของแม่น้ำโขงได้ก่อให้เกิดสิ่งดีๆ มากหลาย ประชาชนสองฟากฝั่งใช้แม่น้ำโขงเป็นแหล่งอาหาร แหล่งทำมาหากินด้านการเกษตรมากมาย ที่หน้าเมืองนครพนมและเมืองเวียงจันทน์เกิดเป็นหาดทรายกว้างใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามของทั้งสองประเทศ งานเทศกาลประเพณีที่เกี่ยวข้องกัยการท่องเที่ยว เช่น ประเพณีแข่งเรือ ประเพณีไหลเรือไฟ และปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคเกิดขึ้น ก่อให้เกิดการทางท่องเที่ยวอย่างกว้างขวาง


          แม่น้ำมูน  เป็นแม่น้ำสายกว้างใหญ่และยาวที่สุดในอีสาน เกิดขึ้นจากแนวทิวเขาสันกำแพงบางส่วน และทิวเขาพนมดงรักอีกบางส่วน แม่น้ำมูนไหลลงไปกลายเป็นสาขาหนึ่งของแม่น้ำโขง ตรงจุดที่แม่น้ำมูนไหลลงแม่น้ำโขงเรียกว่าแม่น้ำสองสี เมืองโขงเจียม

          ส่วน แม่น้ำชี ต้นกำเนิดคือแนวเทือกเขาเพชรบูรณ์ แล้วไหลผ่านไปยังที่ราบตอนกลางของภาคอีสาน จังหวัดขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยโสธร แล้วไหลมาลงยังแม่น้ำมูนที่จังหวัดอุบลราชธานี ต่อจากนั้นจึงรวมกันไหลลงแม่น้ำโขงที่ปากมูลอีกต่อหนึ่ง

          ถึงตรงนี้ อ.ส.ท. เราจึงฟันธงไปได้เลยว่า สุดยอดแห่งแม่น้ำอีสาน จะมีแม่น้ำไหนเกินแม่น้ำโขง บวกกับลำน้ำสาขา แม่น้ำมูน แม่น้ำชี เป็นไม่มี...ฟันธง

ที่มา 

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว


อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว 
สภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงที่ป่าปกคลุมอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี การเดินทางขึ้นดอยค่อนข้างลำบาก แต่เมื่อขึ้นไปถึงแล้วจะพบดอกไม้ป่า พันธุ์ต่าง ๆ เช่น ดอกหงอนนาค ดอกไม้ดินต่าง ๆ สวยงามมาก แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่น้ำตกภูสอยดาว และลานสน
ที่มา

อุทยานแห่งชาติภูเรือ


อุทยานแห่งชาติภูเรือ 
เป็นภูเขาสูงใหญ่ บนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีต้นสนขึ้นสลับซับซ้อน มีลักษณะแปลกคือ มีส่วนหนึ่งเป็นผา ชะโงกยื่นออกมาเหมือน หัวเรือสำเภาใหญ่ อุทยานแห่งชาติภูเรือ จุดที่น่าสนใจบนอุทยานได้แก่ ผาโหล่นน้อย ภูผาสาด และทะเลภูเขา ผาซับทอง หรือ ผากุหลาบขาว เป็นหน้าผาสูงชัน และแหล่งน้ำซับที่มีพืชน้ำไลเคนสีเหลืองคล้ายสีทอง ขึ้นเต็มไปทั่ว น้ำตกห้วยไผ่ เป็นน้ำตกที่ไหลจากหน้าผาสูงชัน ยอดภูเรือ เป็นจุดสูงสุดในอุทยานฯ สามารถมองเห็น แม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขงที่กั้นพรมแดนระหว่างไทย-ลาว

ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ – ดอยแม่เหาะ จ.แม่ฮ่องสอน

ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ – ดอยแม่เหาะ จ.แม่ฮ่องสอน
ดอยแม่อูคอ เป็นทุ่งดอกบัวตองที่มีพื้นที่ครอบคลุมเป็นเขากว้าง ประมาณ 1 พันไร่ ดอกบัวตองที่นี่เมื่อบานพร้อม ๆ กันในช่วงเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม จะเหลืองอร่ามปกคลุมทั่วทั้งภูเขา ดอยแม่เหาะ อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 10-8 ตรงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 84 เขตตำบลแม่เหาะ เป็นที่ตั้งของศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จังหวัดแม่ฮ่องสอน บริเวณนี้ มีภูมิประเทศที่งดงาม มีชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง อยู่เป็นส่วนมาก ในเดือนพฤศจิกายน ถึงธันวาคม ของทุกปี ดอกบัวตอง หรือทานตะวันป่า จะบานสะพรั่ง ไปทั่วหุบเขา 
ที่มา http://www.muangthai.com/thaidata/6656/10-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7.html

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า


อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 
ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัดคือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ไร่ภูหินร่องกล้ามียอดเขาสูง 1,617 เมตร มีทิวทัศน์สวยงาม ปกคลุมด้วยป่าเต็งรังป่าดิบเขา และป่าสนเขา มีสนสองใบและสนสามใบ ขึ้นปะปนกัน และพบกล้วยไม้ดอกไม้ป่าหลายชนิดขึ้นอยู่ตามลานหิน เคยเป็นศูนย์กลางที่ตั้งฐานที่มั่นการเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ที่ใหญ่ และสำคัญที่สุดของภาคเหนือ จุดที่น่าสนใจ ลานหินปุ่ม ลานหินแตก น้ำตกหมันแดง เป็นต้น

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง


 อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 
เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่ง ของเมืองไทย เพราะมีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ประกอบด้วยระบบนิเวศและ ภูมิประเทศหลากหลาย ทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ น้ำตกและ หน้าผาชมทิวทัศน์ ลักษณะเด่นของอุทยานฯ แห่งนี้คือเป็นภูเขาหินทราย ยอดตัด เป็นที่ราบขนาดใหญ่คล้ายใบบอนหรือรูปหัวใจ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร มีความสูง 400-1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จุดท่องเที่ยวประทับใจได้แก่ ผานกแอ่น ผาหล่มสัก ผาหมากดูด น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำสอเหนือ-ใต้ สระอโนดาด เป็นต้น

ภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง จ.เชียงราย


ภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง จ.เชียงราย 
ภูชี้ฟ้า เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นอีกแห่งหนึ่ง มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า ยิ่งตอนที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นมาตรงระหว่างปลายยอดเขา จะดูเหมือน เสือคาบแก้วมาก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตร ส่วนของหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง


 อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง 
ด้วยสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี มีเทือกเขาและภูเขาสูง สลับซับซ้อน ครอบคลุมอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภูเขาที่สูงที่สุด คือ ดอยช้าง เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีลำห้วยน้อยใหญ่มากมาย ฤดูหนาวอากาศเย็น ลมแรง

เขาค้อ – อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์


 เขาค้อ – อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ 
เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ชื่อว่าเขาค้อเป็นเพราะ ป่าบริเวณนี้มีต้นค้อขึ้นอยู่มาก เนื่องจากภูมิอากาศบนเขาค้อเย็นตลอดปี ค่อนข้างเย็นจัดในฤดูหนาว และมีทัศนียภาพสวยงาม จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่ง ของเพชรบูรณ์ สถานที่น่าสนใจบนเขาค้อได้แก่ อนุสาวรีย์จีนฮ่อ ฐานอิทธิเจดีย์ พระบรมสารีริกธาตุเขาค้อ หอสมุดนานาชาติเขาค้อ พระตำหนักเขาค้อ น้ำตกศรีดิษฐ์ สวนสัตว์เปิดเขาค้อ และเนินมหัศจรรย์ หมู่บ้านคุ้มจุดชมวิวกิ่วลม หมู่บ้านนอแล และหมู่บ้านขอบด้ง หมู่บ้านหลวง

ดอยอ่างขาง


ดอยอ่างขาง 
เป็นที่ตั้งสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ภายในสถานีมีโครงการวิจัยผลไม้ ไม้ดอกเมืองหนาว งานสาธิตพืชไร่ แปลงทดลองปลูกไม้ผลเมืองหนาว สวนบอนไซ มีการจำหน่ายผลิตผลพืชผักเมืองหนาวที่ปลูก ในบริเวณโครงการฯ ให้แก่นักท่องเที่ยวตามฤดูกาล ในสถานีฯ มีที่พัก และมีสถานที่กางเต็นท์บริการแก่นักท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์


 อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 
ชื่อนี้มักจะเป็นติดอันดับต้นๆ ของการท่องเที่ยว เดิมชื่อว่า ดอยหลวง หรือ ดอยอ่างกา ดอยหลวง หมายถึงภูเขาที่มีขนาดใหญ่ ส่วนที่เรียกว่า ดอยอ่างกานั้น เพราะมีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่งลักษณะเหมือน อ่างน้ำ มีฝูงกาไปเล่นน้ำกันมากมาย จึงเรียกว่า อ่างกา หรือ ดอยอ่างกา
ดอยอินทนนท์ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย (2,599 เมตร) จึงทำให้มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ มี น้ำตกแม่ยะ น้ำตกแม่กลาง น้ำตกวชิรธาร น้ำตกสิริภูมิ ถ้ำบริจินดา โครงการหลวงอินทนนท์ และ เส้นทางศึกษาธรรมชาติหลายจุด
 
 

วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เที่ยวเมืองตรังกันค่ะ

ท่องเที่ยว: ท่องเที่ยวหัวหิน

พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
 
รัชกาลที่ 6 โปรดให้รื้อพระตำหนักหาดเจ้าสำราญมาปลูกขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ.2466 ได้รับขนานนามว่า "พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง" ลักษณะเป็นพระตำหนักไม้สองชั้น หันหน้าออกสู่ทะเล พระตำหนักฝ่ายในอยู่ปีกขวา ทางปีกซ้ายเป็นส่วนของฝ่ายหน้า ประกอบด้วยพระที่นั่งสามองค์เชื่อมต่อ ถึงกันโดยตลอด พระที่นั่งสุนทรพิมาน  เป็นที่ประทับของพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี พระวรชายา พระที่นั่ง พิศาลสาครเป็นที่ประทับของพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นหมู่พระที่นั่งตรงกลางประกอบด้วยห้องต่าง ๆ สำหรับสำราญพระอิริยาบถ ห้องพักข้าราชบริพารที่คอยรับใช้ใกล้ชิด ห้องทรงพระอักษร และพระที่นั่ง สโมสรเสวกามาตย์ เป็นอาคารโถงสองชั้นเปิดโล่งใช้เป็นที่ประชุมในโอกาสต่าง ๆ และเป็นโรงละคร ซึ่งเคยจัดแสดงละครครั้งสำคัญ 2 ครั้ง คือ เรื่องพระร่วง  และวิวาห์พระสมุทรในปี พ.ศ.2484 เจ้าพระยารามราฆพ ได้สร้างพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ถวายเป็นพระราชานุสรณ์ประดิษฐานไว้ ณ ท้องพระโรงพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน และได้จัดงานบำเพ็ญ พระราชกุศลถวายเป็นพระราชสักการะ เนื่องในวันที่ระลึกคล้ายวันสวรรคตของพระองค์ในวันที่ 25 พฤศจิกายน เป็นประจำทุกปี
พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 08.00-16.00 น. สำหรับผู้เข้าชมเป็นหมู่คณะ ต้องทำหนังสือถึงผู้กำกับการกองบังคับการฝึกพิเศษ ค่ายพระรามหก อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โทร. (032) 471388 , 471130

ท่องเที่ยวหัวหิน

ท่องเที่ยวหัวหิน

ท่องเที่ยวหัวหิน

ททท.แม่ฮ่องสอนขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว ร่วมส่งภาพถ่ายประกวดภาพถ่ายในหัวข้อ "มนต์เสน่ห์แห่งแม่ฮ่องสอน"

ททท.แม่ฮ่องสอนขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว ร่วมส่งภาพถ่ายประกวดภาพถ่ายในหัวข้อ "มนต์เสน่ห์แห่งแม่ฮ่องสอน"
                 จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม มีการผสมผสานของวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ได้อย่างกลมกลืน ท่ามกลางความสงบร่มเย็น และความศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนาทำให้เกิดเป็นงานประเพณีที่มีเอกลักษณ์ที่งดงามและโดดเด่น เป็นเสมือนมนต์เสน่ห์ที่ทำให้จังหวัดแม่ฮ่องสอนกลายเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางมาเพื่อเยี่ยมเยือนอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอนได้กำหนดจัดโครงการประกวดภาพถ่าย "มนต์เสน่ห์แม่ฮ่องสอน" ขึ้น เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวและผู้รักการถ่ายภาพได้มีส่วนร่วมในการส่งภาพถ่ายของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมในโครงการดังกล่าว โดยภาพที่ส่งเข้าประกวด แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. ประเภทสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน
2. ประเภทกิจกรรม งานประเพณีสำคัญของจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ซึ่งภาพถ่ายที่ส่งเข้าร่วมโครงการ จะต้องเป็นภาพถ่ายที่ถ่ายภายในเดือนพฤศจิกายน 2554 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2555 โดยระบุชื่อภาพและที่มาของภาพตามเงื่อนไขที่ได้กำหนดเอาไว้ รายละเอียดและใบสมัคร
หลักเกณฑ์ในการส่งภาพถ่าย
1. การถ่ายภาพภายใต้ concept ?มนต์เสน่ห์แม่ฮ่องสอน? หรือ ?Charming Mae Hong Son?
2. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดประกอบด้วยภาพถ่ายกิจกรรม งานประเพณี สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่น่าสนใจของแต่ละอำเภอในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เช่น อำเภอปาย อำเภอปางมะผ้า อำเภอเมือง อำเภอขุนยวม อำเภอแม่ลาน้อย อำเภอแม่สะเรียง หรืออำเภอสบเมย
3. ภาพที่ส่งเข้าร่วมการประกวด ต้องเป็นดิจิตอล บันทึกลงในแผ่นซีดี พร้อมทั้งพิมพ์ภาพ ขนาด 10 x 12 นิ้ว
4. ความละเอียดของภาพไม่ต่ำกว่า 8 ล้านพิกเซล หรือ 300 dpi แต่ไม่เกิน 400 dpi และใช้นามสกุล JPG หรือ TIFF เท่านั้น
5. ตั้งชื่อภาพ ระบุสถานที่ถ่ายภาพ พร้อมทั้งอธิบายรายละเอียดและประวัติความเป็นมาของภาพอย่างสั้นๆ
6. ภาพที่ใช้ประกวดสามารถปรับสีตกแต่งแก้ไขด้านเทคนิคได้ เพื่อให้ภาพมีคุณภาพดีขึ้น แต่ภาพต้องดูเป็นธรรมชาติเหมือนภาพถ่ายปกติ ไม่ตกแต่งให้เป็นผิดไปจากความเป็นจริง
7. ผู้ส่งภาพเข้าประกวดมีสิทธิ์ส่งภาพเข้าประกวดได้ทั้ง 2 ประเภท ๆ ละไม่เกิน 4 ภาพ เป็นภาพถ่ายที่ถ่ายในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น (เดือนพฤศจิกายน 2554 ถึง 31 กรกฎาคม 2555)
8. ขยายเป็นภาพสี โดยมีความกว้าง 10 x 12 นิ้ว ติดภาพลงบนกระดาษการ์ดแข็งสีอ่อน ขนาดไม่เกิน 20 x 24 นิ้ว ด้านหลังกระดาษการ์ดแข็ง โดยกรอกชื่อผู้ถ่ายภาพ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ เลขที่ภาพ ชื่อภาพ ให้ครบ
9. ส่งมอบภาพสีพร้อม Digital File ที่มีคุณสมบัติ High Resolution (ไม่ต่ำกว่า 300 dpi และไม่เกิน 400 dpi) โดยบันทึกลงบนแผ่น CD ภาพถ่าย ที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเป็นภาพที่ถ่ายด้วยตนเองเท่านั้น ห้ามนำผลงานภาพถ่ายของบุคคลอื่นมาใช้ในการประกวด และหากนำภาพ ถ่ายที่ได้รับรางวัลเป็นการนำภาพของบุคคลอื่นมาใช้ ทาง ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอนถือว่าการตัดสินนั้นเป็นโมฆะ โดยขอยกเลิกการตัดสินการประกวดภาพถ่ายของบุคคลดังกล่าวในการประกวดภาพถ่ายประเภทอื่น ๆ ในการจัดโครงการครั้งนี้ด้วย
10. ผู้ส่งภาพเขาประกวดหัวข้อ "มนต์เสน่ห์แม่ฮ่องสอน" ทุกคนมีสิทธิ์ส่งผลงานได้ทั้ง 2 ประเภท และสามารถส่งผลงานภาพถ่ายได้ไม่เกินคนละ 4 ภาพต่อการประกวดแต่ละประเภท และมีสิทธิ์ได้รับรางวัลสูงสุดเพียงรางวัลเดียว
11. ในการประกวดภาพถ่ายหรือไฟล์ต้นฉบับ ที่ส่งเข้าประกวดถือเป็นกรรมสิทธิ์ของ ททท. ไม่มีการส่งคืนให้เจ้าของผลงาน
12. ผู้ส่งภาพทุกคนจะต้องแนบสำเนาบัตรประชาชนและรับรองสำเนาถูกต้อง มาพร้อมการสมัครประกวดภาพถ่ายด้วย
13. ผู้ส่งภาพเข้าประกวดยินยอมให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน สามารถนำผลงานทุกภาพออกเผยแพร่ หรือใช้ประโยชน์อื่นๆ ในกิจกรรมของ ททท. ได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตและจ่ายค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้นแก่เจ้าของผลงาน
14. การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ส่งภาพเข้าประกวดไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น
15. เงินรางวัลที่ได้รับจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นจำนวนร้อยละ 5 ของเงินรางวัล
วิธีการส่งภาพเข้าประกวด
ส่งทางไปรษณีย์โดยวงเล็บมุมซองว่า โครงการประกวดภาพถ่าย และส่งถึง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน
เลขที่ 4 ถนนราชธรรมพิทักษ์ ตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 58000
โทรศัพท์ 053-612982-3
ระยะเวลาการส่งภาพเข้าประกวด
สามารถส่งภาพเข้าประกวดได้ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2555 ในเวลาราชการ ทั้งนี้ หากส่งทางไปรษณีย์ จะถือวันที่ประทับตราไปรษณีย์เป็นสำคัญ
ประเภทรางวัล
1) ประเภทสถานที่ท่องเที่ยว
1. รางวัลที่ 1 เงินสด 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) พร้อมโล่และใบประกาศเกียรติคุณ
2. รางวัลที่ 2 เงินสด 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) พร้อมโล่และใบประกาศเกียรติคุณ
3. รางวัลที่ 3 เงินสด 3,000 บาท (สามพันบาทถ้วน) พร้อมโล่และใบประกาศเกียรติคุณ
4. รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ๆ ละ 1,500 บาท (หนึ่งพันห้าร้อยบาทถ้วน) พร้อมโล่และใบประกาศเกียรติคุณ
2) ประเภทกิจกรรม งานประเพณี
1. รางวัลที่ 1 เงินสด 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) พร้อมโล่และใบประกาศเกียรติคุณ
2. รางวัลที่ 2 เงินสด 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) พร้อมโล่และใบประกาศเกียรติคุณ
3. รางวัลที่ 3 เงินสด 3,000 บาท (สามพันบาทถ้วน) พร้อมโล่และใบประกาศเกียรติคุณ
4. รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ๆ ละ 1,500 บาท (หนึ่งพันห้าร้อยบาทถ้วน) พร้อมโล่และใบประกาศเกียรติคุณ
ประกาศผลการตัดสิน
ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอนจะประกาศผลการตัดสินในวันที่ 31 สิงหาคม 2555